เทคนิคป้องกันอาการขาดธาตุในข้าวโพด

ข้าวโพด  จัดเป็นพืชไร่ที่ปลูกง่าย อายุสั้น สามารถเจริญเติบโตได้ดีในทุกภาคของประเทศไทย  ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพดไร่ หรือข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ข้าวโพดจำเป็นต้องได้รับธาตุอาหารที่เพียงพอ เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพสูงสุด

คุณพีจย์ กวิสรา จันทร์ชู นักวิชาการเกษตร ยารา (ประเทศไทย) ผู้เชี่ยวชาญพืชข้าวโพด บอกว่า การให้ธาตุอาหารที่ข้าวโพดต้องการในทุกระยะเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก  และอาการขาดธาตุอาหารที่พบบ่อยในข้าวโพด  มักเกิดจากปัญหาในดินและการขาดธาตุอาหารในดิน ซึ่งคุณพีจย์มีเคล็ดลับในการสังเกตอาการขาดธาตุอาหารหลักในข้าวโพดมาฝากเกษตรกรดังนี้

ปัญหาอาการขาดธาตุอาหารต่างๆจะหมดไป หากเกษตรกรเลือกใช้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบถ้วน ยาราขอแนะนำ “โปรแกรมปุ๋ยมืออาชีพ ยารา สุดยอดข้าวโพด”เพื่อผลผลิตสูงสุด เมล็ดใหญ่ เต็มฝัก น้ำหนักดี ซึ่งประกอบด้วย 3 สูตรเด็ด คือ

ยารามีร่า 23-8-8 - ซึ่งมีธาตุอาหารหลัก 3 ชนิด คือ >ไนโตรเจน – ช่วยพัฒนาลำต้นและใบ ทำให้เจริญเติบโตไวขึ้น  >ฟอสฟอรัส - ช่วยให้ระบบรากยึดเกาะดินได้ดีขึ้น ทำให้ลำต้นตั้งตรง ที่สำคัญคือช่วยการดูดซึมธาตุอาหารเข้าไปยังต้นพืชได้ดีขึ้น ทำให้เมล็ดข้าวโพดเต็มฝัก >โพแทสเซียม - ช่วยสร้างอาหารให้ฝักข้าวโพดและต้นข้าวโพด ทำให้ฝักใหญ่ เมล็ดเต็มฝักและได้น้ำหนัก

ยาราวีร่า 46-0-0 - มีโนโตรเจนในอัตราที่สูง ทำให้ลำต้นยาว ใบดก ใหญ่ สีเขียวเข้ม น้ำหนักดี

ยาราวีต้า ซิงค์แทร็ก - ธาตุอาหารเสริมทางใบ สูตรเข้มข้น ซึ่งมีสังกะสี 38 % มีสารจับใบ ซึ่งช่วยป้องกันการชะล้างของฝน/ น้ำ และมีสารเปียกใบ ช่วยให้เนื้อสารกระจายไปทั่วทั้งใบ ยาราวีต้า ซิงค์แทร็กประกอบด้วยธาตุอาหารเสริมสำคัญ 3 ชนิด ที่ข้าวโพดต้องการ คือ แคลเซียม - ทำให้ลำต้นแข็งแรง รากยึดเกาะดี  โบรอน – ช่วยผสมเกสรของข้าวโพด ถ้าการผสมเกสรดี จะทำให้ฝักข้าวโพดสมบูรณ์ และสังกะสี – ช่วยเรื่องการสังเคราะห์แสง ถ้าสังเคราะห์แสงดี การสร้างแป้งในเมล็ดข้าวโพดก็จะดี ทำให้ข้าวโพดฝักเต็ม น้ำหนักดี

ปุ๋ยยาราจึงเป็นปุ๋ยที่ตอบโจทย์และสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี เพราะได้รับการยืนยันจากเกษตรกรผู้ใช้จริงว่าให้ผลผลิตสูงกว่า และคุณภาพดีกว่าจริง