คุณกิจจ์เตชินทร์ คําดา
เกษตรกรผู้ปลูกสวนปาล์มน้ํามัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เมื่อกล่าวถึงพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้ กับประเทศไทย หนึ่งในนั้นก็คือปาล์มน้ํามัน แต่วันนี้ราคารับซื้อปาล์มน้ํามันกลับลดลง ดังนั้น เพิ่มความยั่งยืนในอาชีพนี้ จึงต้องมีการปรับตัว เพื่อรับมือกับราคาที่เปลี่ยนแปลงไป โดยใช้ระบบ การจัดการ การปลูกที่ดี ที่สําคัญคือ เลือกใช้ปุ๋ยที่ ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิต นํามา ชดเชยในส่วนต่างของราคาที่ลดลง เสริมสร้างรายได้
คุณกิจจ์เตชินทร์ คําดา เกษตรกร ชาวสวนปาล์มน้ํามัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้บอก เล่าเคล็ดลับฉบับการทําสวนปาล์มแบบมืออาชีพ พร้อมกับสร้างระบบการบริหารจัดการที่ดี ทําให้ ต้นปาล์มแข็งแรงและให้ผลผลิตอย่างเต็มที่ จํานวน ผลผลิตไม่ลดน้อยลง ส่งผลให้ได้กําไรอย่างงดงาม แม้จะเป็นช่วงที่ราคาผลผลิตปาล์มตกต่ํา
ช่วงผลผลิตราคาตกต่ํา ต้องลด การใส่ปุ๋ยหรือไม่ ?
คุณกิจจ์เตซ็นทร์ กล่าวว่าปาล์มจะมี ผลผลิตได้ต้องได้รับธาตุอาหารอย่างครบถ้วน หากลดปุ๋ยจะส่งผลให้ต้นโทรม อ่อนแอต่อโรคใน 2 ปีต่อมา ยิ่งในช่วงฤดูฝนจะพบโรคทะลายเน่า และโรคผลร่วง อีกทั้งยังทําให้ผลผลิตด้อยคุณภาพ เปอร์เซ็นต์น้ํามันต่ําและลดลง ดังนั้นควรใส่ปุ๋ย บํารุงไม่ควรลดการใส่ปุ๋ยโดยเด็ดขาด
ใส่ปุ๋ยที่ใช่เท่านั้น จึงให้ผลผลิตที่มากกว่า และอยู่ได้
ขั้นตอนการปลูกปาล์มนั้น คุณกิจจ์เตชินทร์ได้นําองค์ความรู้และหลักวิชาการมาใช้ ก่อนปลูกจะ ใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุม โดยปลูกระยะห่างระหว่างต้น 9 x 9 x 9 เมตร นําต้นกล้าปาล์มอายุ 10-12 เดือน ลงปลูก เมื่อต้นปาล์มเจริญเติบโตเข้าที่ จะเริ่มใส่ ยารามีร่า สูตรเสมอ จนกระทั่งปาล์มอายุ 3 ปี จะเริ่ม มีทะลายออกมาให้เก็บและส่งไปจําหน่ายยังโรงงาน
คุณกิจจ์เตชินทร์ กล่าวว่า เมื่อปาล์มให้ผลผลิตแล้วจะเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี ช่วงแรกจะให้ ผลผลิตเพียงแค่ 1 ตันต่อไร่เท่านั้น เมื่ออายุเข้าสู่ปีที่ 7 ผลผลิตได้ถึง 5 ตันต่อไร่ แต่ผลผลิตที่ได้สูงสุด คือ 8 ตันต่อไร่ เคล็ดลับสําคัญคือ การใส่ปุ๋ย “ยารามีร่า ท็อปเค” (ปุ๋ยคอมปาวด์ NPK +1.5MgO +0.2B มีแมกนีเซียมและโบรอน) เพราะในปุ๋ย 1 เม็ดจะมีธาตุอาหารครบถ้วนเท่ากันทุกเม็ด มีฟอสฟอรัส ที่ปาล์มสามารนําไปใช้ได้อย่างเต็มที่ เพราะมีออร์โธฟอสเฟต, โพลีฟอสเฟตและพี-เอ็กซ์เทนด์ การรวม กันระหว่างฟอสฟอรัสทั้ง 3 ชนิดนี้ทําให้พืชสามารถใช้ฟอสฟอรัสได้มากขึ้นและยาวนานขึ้นแม้ในดินที่ ต่างกัน และที่สําคัญมีไนโตรเจนในรูปในเตรต NO ปาล์มสามารถนําไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีและคงอยู่ ในดินได้นาน โดยใส่ให้กับต้นปาล์มทุกๆ 4 เดือน ครั้งละ 2-2.5 กิโลกรัมต่อต้น ผสมกับปุ๋ยเคมี สูตรอื่นๆ บ้าง สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ต้นมีความสมบูรณ์ ใบเขียว รากแข็งแรง คอปาล์มมีขนาดใหญ่ ต้นไม่โทรม และออกผลผลิตได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี
คุณกิจจ์เตชินทร์ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า แต่ก่อนใช้ปุ๋ยทั่วไปได้ผลผลิตเฉลี่ย 5 - 6 ตันต่อไร่ แต่หลังจากใช้ปุ๋ย “ยารามีร่า ท็อปเค” ตามโปรแกรมของยาราแล้วผลผลิตเพิ่มมากขึ้นไปถึง 8 ตันต่อไร่ อีกทั้งต้นปาล์มมีความสมบูรณ์มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
“ผลผลิตต่อไร่มาก ชดเชยกับราคาปาล์มที่ลดลงได้"
ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ราคาผลผลิตปาล์มน้ํามันตกต่ําลง ซึ่งราคาขายให้กับโรงงานหรือแหล่งรับซื้อ มาตรฐานอยู่ที่กิโลกรัมละ 2 – 3.50 บาท ถ้าเกษตรกรไม่ได้ขายให้กับโรงงาน ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 1.50 - 2 บาท เมื่อผลผลิตต่อไร่ได้เท่าเดิมหรือลดลง ทําให้เกษตรกรได้รายได้น้อยบางครั้งถึงกับขาดทุน ด้วยซ้ํา แต่ไร่ของคุณกิจจ์เตชินทร์สามารถผ่านวิกฤติดังกล่าวมาได้ และผลผลิตปาล์มได้มาตรฐาน มีผลผลิตปริมาณที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึง 8 ตันต่อไร่ จึงสามารถชดเชยราคาที่ลดต่ําลงได้และไม่ขาดทุน เพราะ มีการปรับตัวในเรื่องระบบการปลูก รวมทั้งเลือกใช้ปุ๋ยที่ดีมีมาตรฐานและคุณภาพสูง อย่างปุ๋ย “ยารา” เพราะมั่นใจว่า “ใช้ยารา มั่งคั่ง มั่นใจ ไม่มีอะไรต้องกลัว”