เทคนิคการใส่ปุ๋ยมะม่วงให้ลูกใหญ่ ผิวสวย เนื้อในดี และรสชาติดี
มะม่วง เป็นผลไม้เมืองร้อนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และยังเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญ ที่ผ่านมาประเทศไทยส่งออกมะม่วงเป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว ดังนั้นการดูแลบำรุงมะม่วงให้ได้คุณภาพ นอกจากน้ำดี ดินดีแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปุ๋ยก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ผลผลิตแตกต่างด้วยเทคโนโลยีของปุ๋ยยารา
ปุ๋ยยาราแตกต่างจากปุ๋ยอื่นอย่างไร คุณหนึ่ง ภูมิพีรพงศ์ พาหิรัญ นักวิชาการเกษตรอาวุโส บริษัท ยารา (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลว่า ปุ๋ยทั่วไปให้ฟอสฟอรัสแค่ 2 รูปแบบ โดยให้ฟอสฟอรัสที่ละลายน้ำได้ 90% และส่วนที่ละลายน้ำไม่ได้ คือ ละลายในกรด 10% แต่ปุ๋ยยาราให้ถึง 3 รูปแบบ คือ ฟอสฟอรัสที่ละลายน้ำได้ 70% ละลายน้ำไม่ได้/ ละลายในกรด 30% และที่เพิ่มเข้ามาคือ สายของฟอสฟอรัส ทำให้ฟอสฟอรัสของปุ๋ยยารา เป็นประโยชน์ในดินมากขึ้น ไม่ถูกตรึงง่ายๆ เวลาที่ใส่ลงไปในดิน
เทคนิคการใส่ปุ๋ยมะม่วง ในทุกระยะพืช
เกษตรกรชาวสวนมะม่วงยืนยันตรงกันว่าปุ๋ยยาราให้ผลที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด คือ มะม่วงติดลูกดี ลูกใหญ่ น้ําหนักมาก ขายง่าย มีกําไร สำหรับเทคนิคการใส่ปุ๋ยมะม่วงในแต่ละช่วง คุณหนึ่งมีคำแนะนำดังนี้
ระยะฟื้นต้น หลังเก็บเกี่ยวผลผลิต ในช่วงหลังเก็บเกี่ยว จะมีการสูญเสียธาตุอาหารออกไปจากต้นด้วย แนะนำให้บำรุงด้วยยารามีร่า 16-16-16 ในอัตรา 1-2- กก./ ต้น ใช้ร่วมกับยาราลีว่าไนตราบอร์ 15-0-0 อัตรา 0.5 กก./ ต้น ผสมกันแล้วหว่านในรัศมีทรงพุ่ม เพื่อให้ใบที่แตกใหม่ แข็งแรงสมบูรณ์ และควรเสริมด้วยยาราวีต้า อมาซิงค์ที่มีสังกะสีและแมงกานีส ในอัตรา 80 ซีซี/ ไร่ สังกะสีจะช่วยปรับสมดุลภายในต้นพืช ทำให้ต้นมะม่วงซึ่งผ่านการเก็บเกี่ยวมา ฟื้นต้นได้ดีขึ้น
ระยะใบเพสลาด แนะนำให้ฉีดพ่นด้วย ยาราวีต้า แม็กแทร็ก ซึ่งมีแมกนีเซียมสูง ในอัตรา 320 ซีซี/ ไร่ จะช่วยทำให้ใบที่ออกมาใหม่ แข็งแรง สมบูรณ์ เขียว แผ่เต็มใบ หากทำใบออกมาดี ก็จะส่งผลให้น้ำหนักและขนาดของผลดีตามไปด้วย
ระยะแตกใบขุดที่ 2 มะม่วงต้องทำใบ 2 ชุด เพื่อให้ธาตุอาหารเพียงพอกับการขยายลูก เพื่อที่จะออกดอกต่อไปในอนาคต ช่วงนี้แนะนำให้ใช้ยารามีร่า 16-16-16 ในอัตรา 1-2 กก./ ต้น
ระยะสะสมอาหารเพื่อสร้างตาดอก เพื่อช่อดอกที่สมบูรณ์ ลดโอกาสในการเป็นลูกกระเทย แนะนำยารามีร่าดับเบิ้ล 8-24-24 อัตรา 1.5 – 2 กก./ ต้น และฉีดพ่นด้วยยาราวีต้า ฟรูเทรล ในอัตรา 400 ซีซี/ ไร่ ช่วยในเรื่องการสะสมอาหาร ทำให้ช่อดอกสมบูรณ์ แข็งแรงและยาว
ระยะติดผลเล็กจนถึงขยายผล สิ่งที่ต้องระวังในช่วงนี้คือ การหลุดร่วงของมะม่วงผลเล็ก แนะนำให้ใช้ยารามีร่า คอมเพล็กซ์ 12-11-18 อัตรา 1.5 กก./ ต้น ถ้าต้นใหญ่ ให้เพิ่มเป็น 2 กก./ ต้น โดยใช้ร่วมกับยาราลีว่าไนตราบอร์ 15-0-0 อัตรา 0.5 กก./ ต้น ส่วนธาตุอาหารรอง จะเป็นกลุ่มแคลเซียมโบรอน แนะนำยาราวีต้า แคลซิพลัส อัตรา 400 ซีซี/ ไร่ โดยฉีดพ่นตั้งแต่เริ่มติดผลเล็กจนถึงช่วงใกล้เก็บเกี่ยว จะช่วยในเรื่องการหลุดร่วงของผล
ระยะก่อนเก็บเกี่ยว เป็นระยะสำคัญในเรื่องการขยายผล และการเข้าสีของมะม่วง แนะนำยารามีร่า คอมเพล็กซ์ 12-11-18 หรือ ยารามีร่า วินเนอร์ 14-8-19 ในอัตรา 2 กก./ ต้น ทั้ง 2 สูตรนี้มีโพแทสเซียมที่สำคัญคือ โพแทสเซียมซัลเฟต ช่วยในเรื่องของสีมะม่วง ทำให้ผิวเนียน สีทอง เป็นที่ต้องการของตลาด
จะเห็นว่ายาราปีปุ๋ยหลากหลายสูตรที่ให้ธาตุอาหารครบถ้วน ตรงตามความต้องการของมะม่วงในแต่ละระยะ ผลผลิตที่ได้จึงเพิ่มขึ้นและมะม่วงแต่ละผลก็มีคุณภาพอีกด้วย
นักวิชาการยารา พบเกษตรกร
คุณภูมิพีรพงค์ พาหิรัญ นักวิชาการเกษตรอาวุโส บริษัท ยารา ประเทศไทย จะมาแนะนำโปรแกรมใส่ปุ๋ยมะม่วงหลังจากที่เกษตรกรมีการเก็บเกี่ยวแล้ว ช่วงนี้สำคัญมากเพราะเมื่อเก็บเกี่ยวปริมาณธาตุอาหารก็จะออกไปจากต้นด้วย แล้วต้องบำรุงยังไงไปติดตามในคลิปนี้ได้เลยคร้าบ
เสียงจริงเกษตรกรยารา
ชี้ช่องทางรวย !! เจ๊หม่วยสร้างตัวเองจากช่างเย็บผ้าสู่ประธานกลุ่มไม้ผลเพื่อการส่งออก มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองของเจ๊หม่วยคือมะม่วงเกรดเอที่ส่งออกไปทั่วโลก ! ด้วยประสบการณ์การปลูกมะม่วงมากว่า 12 ปี เจ๊หม่วยเรียนรู้วิธีการดูแลมะม่วงที่ดี และแบ่งปันความรู้สู่ผู้คนที่สนใจ สิ่งที่เจ๊หม่วยย้ำว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือการใช้ปุ๋ยที่ดี ในช่วงเวลาและปริมาณที่เหมาะสมนั่นเองคร้าบ
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง