โรคกรีนนิ่ง หนึ่งในอาการของโรคที่สำคัญในส้มที่ควรรู้!

1) โพแทสเซียม เป็นธาตุที่ใช้เยอะมาก ส่วนใหญ่จะแสดงอาการขาดธาตุที่ใบแก่ เมีอาการใบเหลืองที่ใบแก่ เนื้อใบเริ่มมีอาการเป็นสีเหลืองตั้งแต่ขอบใบเข้าไป ลักษณะเป็นรูปตัววี

2) แมกนีเซียม เกี่ยวข้องกับการปรุงอาหาร หรือเรื่องของคลอโรฟิลล์ในพืช หากขาดธาตุแมกนีเซียม จะมีลักษณะของเนื้อใบเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แต่เส้นใบยังเขียวอยู่ อาการนี้กระทบบต่อการเจริญเติบโตของผลด้วย

3) สังกะสี แสดงอาการที่บริเวณใบยอดที่เพิ่งออกมาใหม่ ใบจะมีขนาดเล็กลงกว่าปกติ เป็นลักษณะใบพาย คล้ายใบพายเรือเล็กๆ ในเรื่องความสมบูรณ์ของต้นที่จะส่งต่อไปในเรื่องของดอก รวมถึงเรื่องของการเจริญเติบโตในอนาคต หลังจากที่ทำการฟื้นต้นแล้ว มันจะเติบโตช้าลง

4) แคลเซียม ช่วยในเรื่องการสร้างผนังเซลล์ ผนังของผล ถ้าขาดแคลเซียม ส้มจะแตก ถ้าเราสามารถลดเปอร์เซ็นต์การแตกของส้มได้ ปริมาณผลผลิตก็จะกลับมาด้วย

คุณหนึ่งบอกว่า การที่ผลส้มแตก สาเหตุหลักคือ ขาดธาตุแคลเซียม แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ 2 ตัว คือ

สำหรับหว่านทางดิน - แนะนำ ยาราลีว่า ไนตราบอร์ 15-0-0 ซึ่งมีแคลเซียมถึงเกือบ 26% ละลายน้ำได้ พืชสามารถที่จะดูดซึม และเอาไปใช้ได้ทันที

ฉีดพ่นทางใบ - แนะนำ ยาราวีต้า แคลซิพลัส เน้นฉีดที่ผลในช่วงฤดูฝนทั้งฤดู เพื่อลดปัญหาผิวส้มแตก และเรื่องของการหลุดร่วง

นอกจากนี้หลังจากเก็บเกี่ยว ส้มมักมีปัญหาเรื่องการขาดธาตุโพแทสเซียม แนะนำให้ใช้ ยารามีร่า 16-16- 16 ซึ่งมีโพแทสเซียมที่สามารถไปทดแทนในภาวะที่มีการใช้โพแทสเซียมค่อนข้างเยอะในช่วงของการติดผล นอกจากนี้ยังมีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยส่งเสริมให้ต้นกลับมาสมบูรณ์ เขียว พร้อมที่จะออกดอก และพัฒนาผลในปีถัดไป

ผลิตภัณฑ์อีก 2 ตัวที่แนะนำ คือ ยาราวีต้า แม็กแทร็ก ช่วยป้องกันการขาดธาตุแมกนีเซียม และยาราวีต้า อมาซิงค์ ช่วยในเรื่องของธาตุสังกะสี  ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ตัวนี้สามารถใช้ร่วมกันได้ โดยฉีดพ่นพร้อมกันในคราวเดียว ช่วยประหยัดต้นทุนและฟื้นฟูสภาพต้นได้เป็นอย่างดี