July 01, 2025
120 ปี ยารา มองอดีตเพื่อก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน
ก้าวเข้าสู่ปีที่ 120 สำหรับบริษัทยารา ผู้นำระดับโลกด้านโภชนาการพืชที่บุกเบิกเส้นทางใหม่ๆ ให้กับวงการเกษตร ในปีนี้ ยาราจึงชูสโลแกน “120 ปี ยารา มองอดีตเพื่อก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน” ที่สะท้อนถึงการเดินทางที่ยาวนานกว่าศตวรรษในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และให้ความรู้เพื่อเพิมผลผลิตทางการเกษตร สร้างความมั่นคงทางอาหาร และการทำเกษตรเชิงฟื้นฟู
นวัตกรรมจากนอร์เวย์ สู่ผู้นำปุ๋ยธาตุอาหารแบบคอมปาวด์
ยาราเป็นบริษัทปุ๋ยแห่งแรกของโลกที่บุกเบิกนวัตกรรมการสกัดธาตุไนโตรเจนจากอากาศมาผลิตเป็นปุ๋ยธาตุอาหารแบบคอมปาวด์คุณภาพสูง หรือปุ๋ยเอ็นพีเค (NPK - ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม)
มองย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น เมื่อปี พ.ศ. 2448 ประเทศนอร์เวย์เพิ่งแยกตัวจากสวีเดน กำเนิดเป็นประเทศเอกราชแห่งใหม่ในยุโรปที่พยายามก่อร่างสร้างตัวขึ้นท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ ในปีเดียวกันนี้ แซม ไอเด (Sam Eyde) และคริสเตียน เบิร์คแลนด์ (Kristian Birkeland) ได้ก่อตั้งบริษัทนอร์สก์ ไฮโดร (Norsk Hydro - บริษัทยาราในปัจจุบัน) หลังจากที่พวกเขาได้คิดค้นวิธีการสกัดธาตุไนโตรเจนจากอากาศเพื่อใช้ผลิตปุ๋ยธาตุอาหาร และนับเป็นก้าวสำคัญในวงการเกษตรที่ช่วยให้ทวีปยุโรปหลุดพ้นสภาพความหิวโหยจากปัญหาการผลิตอาหารได้ไม่เพียงพอ
หนึ่งในประเทศแรกๆ ที่ได้ลองใช้ปุ๋ยยาราก็คือประเทศไทย เมื่อโรงงานของยาราที่เมืองโนทอดเดนได้มีโอกาสถวายการต้อนรับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อ พ.ศ. 2450 และพระองค์ได้ทรงสั่งซื้อปุ๋ยสูตรยาราลีว่า (YaraLiva) จำนวน 1 ตัน เพื่อนำกลับมาทดลองใช้ที่ไทย
ยารา เคียงข้างเกษตรกรไทย
ตลอดช่วงเวลาที่ปุ๋ยยาราได้เข้ามาในประเทศไทย เราดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับเกษตรกรเป็นหัวใจสำคัญ (Farmer Centric) ยาราไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตและขายปุ๋ยเท่านั้น จุดแข็งของยาราคือการศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมของเกษตรกรและปัจจัยแวดล้อม และนำความรู้ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานับร้อยปีมาถ่ายทอดให้กับเกษตรกร โดยมีวัตถุประสงค์ให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ยารามีทีมนักวิชาการที่ลงพื้นที่จัดกิจกรรมตลอดทั้งปี อาทิ งานประชุมเกษตรกร คลินิกพืช แปลงสาธิต และการเยี่ยมเยียนเกษตรกร
นอกจากนี้ บริษัทยารายังมีทีมพัฒนาเครื่องมือดิจิทัล (digital solutions)ให้กับเกษตรกร โดยในแต่ละประเทศจะมีการทำความเข้าใจกับปัญหาของเกษตรเพื่อสร้างเครื่องมือที่ตอบโจทย์สำหรับประเทศนั้นๆ สำหรับประเทศไทย ยาราเป็นบริษัทปุ๋ยรายแรกที่นำเอาเครื่องมือดิจิทัลมาใช้ โดยมีแอปพลิเคชัน ยาราฟาร์มแคร์™ (Yara FarmCare) ที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงความรู้และข้อแนะนำด้านการเกษตรได้อย่างสะดวก รวมถึงมีตัวช่วยให้กับเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นการวัดขนาดพื้นที่ ดูพยากรณ์อากาศ คำนวณปริมาณการใช้ปุ๋ย หรือเทียบสีใบดิจิทัลเพื่อประเมินความต้องการธาตุไนโตรเจนในพืช และล่าสุดได้เพิ่มเครื่องมือตรวจสอบอาการขาดธาตุอาหาร ที่จำแนกอาการขาดธาตุอาหารของพืชต่างๆ ซึ่งมั้งหมดนี้ถูกพัฒนาขึ้นจากความรู้ที่สั่งสมมาเป็นเวลานานโดยนักวิชาการเกษตรของยารา
ตั้งแต่ที่ยาราเปิดตัวแอปฯ ในประเทศไทยเมื่อปี 2565 จนถึงปัจจุบันมีผู้ใช้งานแล้วกว่า 370,000 คน และยารามีความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ยาราฟาร์มแคร์ก้าวสู่แอปพลิเคชันเกษตรอันดับหนึ่งสำหรับเกษตรกรไทย
มุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน
ยารามีจุดมุ่งหมายใน “การสร้างอนาคตทางอาหารที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ” (Growing a Nature-Positive Food Future) ซึ่งหมายถึงการสร้างระบบผลิตอาหารโดยให้ความสำคัญในประเด็นก๊าซเรือนกระจก ระบบเกษตรกรรมฟื้นฟู และความอยู่ดีกินดีของเกษตรกร
การลดก๊าซเรือนกระจก (greenhouse gas mitigation) - ท่ามกลางสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ บริษัทยาราเป็นผู้นำด้านการลดคาร์บอนฟุตปรินท์ (carbon footprint) ในอุตสาหกรรมปุ๋ย โดยเป็นเวลากว่า 20 ปีมาแล้วที่ยาราได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยลดก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตลงกว่าร้อย 50 และล่าสุด ยาราได้เริ่มใช้พลังงานหมุนเวียนในโรงงานผลิตปุ๋ยบางส่วนที่นอร์เวย์ด้วย
การปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (climate resilience) - ยาราได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ภาคการเกษตรสามารถปรับตัวต่อความท้าทายของสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยระบบน้ำ (fertigation) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ยและน้ำ หรือสารชีวภาพ (biologicals) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของพืชในการดูดซึมธาตุอาหาร เพิ่มความทนทานของพืชต่อภัยแล้ง และต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้น
การสร้างความเปลี่ยนแปลงให้โลก (positive global impact) - ด้วยความตั้งใจที่จะยกระดับขีดความสามารถของเกษตรกรในประเทศกำลังพัฒนา ตั้งแต่โครงการให้ความรู้ด้านวิชาการพืช ตลอดจนการส่งเสริมการเข้าถึงเครื่องมือดิจิทัลในภาคการเกษตร บริษัทยาราจึงได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 50 บริษัทที่เปลี่ยนโลก โดยนิตยสารฟอร์จูน (Fortune’s “Change the World” List) ซึ่งยาราติดอันดับถึงสองครั้ง (ปี 2560 และ 2564) ในช่วงเวลาสิบปีตั้งแต่ที่นิตยสารชื่อดังได้เริ่มทำการจัดอันดับขึ้นเมื่อปี 2558
องค์กรที่รณรงค์การลดใช้พลาสติก (reduce plastic waste) - สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับยารา เราได้เริ่มเปลี่ยนมาใช้กระสอบบรรจุปุ๋ยรุ่นใหม่ หรือ “ถุงเรโน” (Renobag) ด้วยเป้าหมายที่จะลดการใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ลงครึ่งหนึ่ง (จากรุ่นมาตรฐานที่เป็นพลาสติกสองชั้นสู่รุ่นใหม่ที่มีพลาสติกเพียงชั้นเดียว)
“หลักในการทำงานของยาราตั้งอยู่บนสามเสาหลัก นั่นก็คือ สังคม (people) สิ่งแวดล้อม (planet) และเศรษฐกิจ (prosperity) เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้โลกนี้ปราศจากความหิวโหย ส่งเสริมการผลิตอาหารและทำการเกษตรอย่างยั่งยืน และสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีให้กับเกษตรกร ยาราได้ส่งมอบความรู้และผลิตภัณฑ์ธาตุอาหารพืชคุณภาพพรีเมียมมาอย่างยาวนานจนทำให้ได้รับความไว้วางใจจากเกษตรกรทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มพืชเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน ยางพารา ปาล์ม ลำไย หรือผักใบ โดยกุญแจสำคัญที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้ คือ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ที่ใช้สินค้า ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืช หรือการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คุณนันทิยา พิทักษ์วงษ์ดีงาม กรรมการผู้จัดการ ยาราประเทศไทย กล่าว
---PHOTO---
เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 120 ปี ยารา ขอเชิญชวนเกษตรมาร่วมสนุกกับกิจกรรมแจกของรางวัลตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2568 ไม่ว่าจะเป็น ปุ๋ย หรือสินค้าพรีเมี่ยมต่างๆ รุ่น limited edition 120 ปี (มีจำนวนจำกัด) หากใครสนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้จากช่องทางของยาราได้ที่
- Yara Facebook: https://www.facebook.com/yarathailandltd/
- FarmCare Facebook: https://www.facebook.com/yarafarmcare.official
- Youtube: http://www.youtube.com/@yarathailand
- Line: https://lin.ee/50DV7Q4
- Website: https://www.yara.co.th/